เช็ค

วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

ประวัติศาสตร์ชาติไทย

ในประวัติศาสตร์ชาติไทยนั้น ประชาชนชาวไทยได้เสียสละชีวิต ร่วมมือกันฟันฝ่าอุปสรรค     ช่วยกันพัฒนาสร้างบ้านเมืองมาโดยลำดับ พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ได้ทรงเสียสละความสุขส่วนพระองค์ทุ่มเทให้แก่แผ่นดิน ช่วยสร้างความเจริญรุ่งเรือง ความมั่นคงสถาพรให้ชาติไทยได้มีเอกราชสืบต่อมาจนทุกวันนี้
พระเจ้าพรหม มหาราชองค์แรกของไทย

ประเทศไทย ตั้งอยู่ท่ามกลางคาบสมุทรอินโดจีน มีเนื้อที่ประมาณ 200,148 ตารางไมล์ หรือประมาณ 514,000 ตารางกิโลเมตร
ภูมิประเทศ ภาคเหนือเป็นที่สูง มีภูเขาสูงสลับซับซ้อนกันหลายพืด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นที่ราบสูง ภาคกลางเป็นที่ราบกว้างใหญ่ มีแม่น้ำสำคัญหลายสาย ภาคใต้เป็นภูเขาติดต่อเป็นทิวยาวไปทางทิศใต้ มีที่ราบแถบชายทะเล

ภูมิอากาศ ประเทศไทยอยู่ในแถบร้อน มี 3 ฤดู คือ ฤดูร้อน ดูฝน และฤดูหนาว
ประเทศไทยมีพลเมือง 60 ล้านคน (สถิติเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2539, เวลา 09.48 น. มีเด็ก 10 คน เกิดในเวลานี้ทั่วประเทศ) พลเมืองส่วนมาก นับถือศาสนาพุทธ
เมืองหลวงของประเทศไทย คือ กรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่บน สองฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงสร้างกรุงเทพ ฯ ขึ้น เมื่อ พ.ศ. 2325 เป็นศูนย์กลางการค้า การอุตสาหกรรม การศึกษา และการคมนาคม
ข้อมูลประเทศไทย
สำนักงานสถิติแห่งชาติรายงานผลการสำรวจสำมะโนประชากรและเคหะ พ.ศ.2543 ซึ่ง เป็นการจัดทำทุกระยะ 10 ปี สรุปว่า ณ วันที่ 1 เม.ย.2543 มีประชากรอาศัยอยู่ในประเทศไทย 60.6 ล้านคน เป็นชาย 29.8 ล้านคน และหญิง 30.8 ล้านคน เพิ่ม 1.05 % ต่อปี เมื่อจำแนก ตามหมวดอายุ พบว่าเป็นประชากรวัยเด็กสูงถึง 14 ปี 24.1 % วัยทำงาน 15-59 ปี 65.5 % และวัยสูงอายุ 9.4 % ทั้งนี้ ประชากรที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยเกือบทั้งหมด หรือ 99.5 % เป็น ผู้มีสัญชาติไทย โดยนับถือศาสนาพุทธ 94.6 % ศาสนาอิสลาม 4.6 % และที่เหลือนับถือศาสนา อื่น เช่นคริสต์
โดยคนไทยมีแนวโน้มแต่งงานช้าลง และผู้หญิงแต่งงานเร็วกว่าผู้ชาย ซึ่งในการสำรวจ ของปี 2543 พบว่าผู้หญิงแต่งงานครั้งแรกเมื่อมีอายุเฉลี่ยประมาณ 24.1 ปี ผู้ชายประมาณ 27.2 ปี ในขณะที่ปี 2533 ผู้หญิงแต่งงานครั้งแรกเมื่ออายุ 23.5 ปี และผู้ชายประมาณ 25.9 ปี นอกจากนี้การมีบุตรของผู้หญิงโดยเฉลี่ยก็ลดลงเช่นกันคือ ผู้หญิงที่เคยสมรสอยายุ 15-49 ปี มีบุตรเกิดรอดโดยเฉลี่ยประมาณ 2.4 คน ในปี 2533 และลดลงเหลือ 1.7 คน ในปี 2543 อีกทั้ง มีหัวหน้าครัวเรือนเป็นหญิงเพิ่มขึ้นในปี 2543 คิดเป็น 25.5 % ของครัวเรือนทั้งสิ้น เปรียบเทียบ กับ 19.4 % ในปี 2533

แหล่งที่มา http://www.encyclopediathai.org/thaihis/history.htm

ศาลยกคำร้องขอประกันตัว!"เจ๋ง ดอกจิก"นอนคุกยาว


ที่ห้องพิจารณา 801 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 11.10 น. วันนี้ (5 ก.ย.) ศาลอ่านคำสั่งขอปล่อยชั่วคราวนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ "เจ๋ง ดอกจิก" ผู้ช่วยเลขานุการรมช.มหาดไทย แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และจำเลยที่ 7 ในคดีก่อการร้ายที่ถูกศาลสั่งเพิกถอนการปล่อยชั่วคราวไว้ หลังจากที่นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความใช้เงินสด 6 แสนบาท ยื่นคำร้องขอประกันตัวใหม่เมื่อวันที่ 3 ก.ย. โดยมีพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม และนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตรมช.มหาดไทย มาเบิกความรับรองความประพฤติให้จำเลย

เมื่อถึงเวลานัด ศาลได้เบิกตัวนายยศวริศมาฟังคำสั่ง โดยมีนางกรุณา มอริส ภรรยาของนายยศวริศ นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธานนปช. และกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งมาร่วมฟังคำสั่งและให้กำลังใจนายยศวริศด้วย

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยที่ 7 เคยได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวมาแล้ว แต่จำเลยยังกระทำการฝ่าฝืนเงื่อนไขในการอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวที่ศาลกำหนด และยังกระทำการในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอันตรายประการอื่น ศาลจึงมีคำสั่งให้เพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยที่ 7 เมื่อวันที่ 22 ส.ค.55 การที่จำเลยมายื่นคำร้องขออนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในครั้งนี้ โดยจำเลยที่ 7 เบิกความในชั้นไต่สวนว่าจำเลยมีความสำนึกผิดแล้ว หากได้รับการอนุญาตให้ประกันตัวจากศาลอีกครั้งขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะปฏิบัติตามเงื่อนไขของศาลอย่างเคร่งครัด จะทำหนังสือขอโทษต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 7 และจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 7 อีก และจะระมัดระวังการกระทำของตนเองมิให้เป็นการดูหมิ่นหรือหมิ่นประมาทหรือกระทำการใดๆ อันเป็นการละเมิด กระทบกระเทือนต่อชื่อเสียงเกียรติยศของบุคคลอื่น โดยมีพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม และนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตรมช.มหาดไทย และอดีตปลัดกระทรวงมหาดไทยมาเบิกความรับรองความประพฤติของจำเลยที่ 7 นั้น พยานทั้งสองเพียงแต่ให้คำรับรองตามความเห็นของพยานเอง ส่วนคำมั่นที่จำเลยให้ไว้กับการบรรเทาผลร้ายที่จะกระทำต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 7 จำเลยเพียงแต่กล่าวอ้างขึ้น โดยยังไม่มีพฤติการณ์แสดงออกชัดว่าได้เริ่มดำเนินการไปแล้วบ้างหรือไม่

หรือหากศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในครั้งนี้ จำเลยจะกระทำการตามที่แถลงไว้จริง จากเหตุผลที่วินิจฉัยมาดังกล่าวข้างต้นประกอบกับการสูญเสียอิสรภาพของจำเลยในเวลาอันสั้น ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะทำให้ศาลเชื่อได้ว่าจำเลยรู้สำนึก มีความรู้สึกยับยั้งชั่งใจในการคิดใคร่ควรว่าสิ่งใดควรทำหรือไม่ควรทำ มีความรู้สึกเข็ดหลาบและหลาบจำต่อการกระทำความผิดของตน หากจำเลยได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวไปจะไม่กระทำการใดๆ อันเป็นการฝ่าฝืนเงื่อนไขในการอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวและจะไม่กระทำการใดๆ อันอาจก่อให้เกิดภยันตรายประการอื่นอีก จึงเห็นสมควรให้ยกคำร้องขอให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 7 และคืนหลักประกันให้แก่ผู้ประกัน

ด้านนายวิญญัติ กล่าวภายหลังว่า หลังจากนี้จะทำหนังสือแสดงความสำนึกผิดส่งถึงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้งหมดภายในสัปดาห์หน้า เพื่อแสดงให้ศาลอาญาให้เห็นว่าจำเลยได้รู้สึกสำนึกผิดและได้มีการปฏิบัติอย่างชัดเจนตามคำสั่ง ขณะที่การพิจารณายื่นขอประกันตัวใหม่น่าจะไม่เกินเดือนต.ค.นี้ ซึ่งหลักทรัพย์อาจจะใช้จำนวนเดิม เพราะคำสั่งศาลวันนี้ไม่มีการพูดถึงเรื่องหลักทรัพย์ว่าน้อยไป รวมทั้งไม่ได้พูดถึงข้อกฎหมายอื่นที่จะไม่ให้ยื่นประกันอีก

ตั้ง"องค์ภา"เป็นทูตไทย ประจำเวียนนา-ออสเตรีย "บัวแก้ว"ขอประทานถวาย


เมื่อวันที่ 4กันยายน ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติอนุมัติรับโอนพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ข้าราชการอัยการตำแหน่ง อัยการจังหวัด ประจำสำนักงานอัยการสูงสุด และแต่งตั้งให้ทรงดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูต(นักบริหารการทูตระดับสูง)ประจำคณะกรรมาธิการแห่งสหประชาชาติ ว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา ณ กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย

ซึ่งเป็นไปตามที่กระทรวงการต่างประเทศ ขอประทานถวายตำแหน่ง เอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา สืบแทนนายสมศักดิ์ สุริยวงศ์ ซึ่งรัฐบาลสาธารณรัฐออสเตรียได้ตอบรับการเสนอขอความเห็นชอบการแต่งตั้งดังกล่าวแล้ว

โดยยังทรงปฏิบัติพระภารกิจ ในฐานะเอกอัครราชทูตประจำคณะกรรมาธิการแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา จนสิ้นสุดวาระการเป็นองค์ประธานคณะกรรมาธิการฯในเดือนธันวาคม 2555 ทั้งนี้ การแต่งตั้งดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม.ได้มีมติอนุมัติการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ประเภทผู้บริหารระดับสูง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ คือ1.นายสมศักดิ์ สุริยวงศ์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส แทน นายวีรพันธุ์ วัชราทิตย์ ที่เกษียณอายุราชการ

2.นายวราวุธ ชูวิรัช อัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แทนนายสมชัย จรณะสมบูรณ์ ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงสตอกโฮล์ม ราชอาณาจักรสวีเดน

3.นายเสข วรรณเมธี รองอธิบดีกรมสารนิเทศ ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ แทน นายจิระชัย ปั้นกระษิณ ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเม็กซิโก สหรัฐเม็กซิโก ทั้งนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2555 เป็นต้นไป


พบกรดร้ายแรง ปนเปื้อนน้ำในนา ย่านลาดกระบัง


กทม.ระบุ น้ำในนาย่านลาดกระบัง ปนเปื้อนกรดร้ายแรง
จากกรณีที่ มีประชาชนเข้าแจ้งกับสำนักงานเขตลาดกระบังว่า น้ำในที่นาบริเวณด้านข้างทางเข้าสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่องลาดกระบัง มีสัตว์น้ำตายเป็นจำนวนมาก และน้ำยังมีลักษณะเป็นสีแดง มีตะกอน และมีคราบสีแดงลอยเหนือผิวน้ำ ประกอบกับต้นไม้ใกล้ๆ มีสภาพยืนต้นตาย
ล่าสุด นายสัญญา จันทรัตน์ ที่ปรึกษาผู้ว่าการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า จากการลงไปสำรวจตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว พร้อมส่งตัวอย่างน้ำไปตรวจพบว่า น้ำในที่นาบริเวณดังกล่าว มีฤทธิ์เป็นกรดอย่างร้ายแรง แต่ยังระบุไม่ได้ว่าเป็นชนิดใด เพื่อไม่ให้มีผลกระทบเป็นวงกว้างตอนนี้จึงได้สั่งห้ามระบายน้ำออกจากที่นา
เบื้องต้นได้นำปูนขาวละลายน้ำมาฉีพ่นเพื่อให้กรดเจือจางลง พร้อมทั้งตรวจสอบทุกๆ 48 ชั่วโมง คาดว่าใน 1 สัปดาห์ น้ำน่าจะเจือจางลง จากนั้นจึงปรับคุณภาพดิน ส่วนการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต้องรอตรวจสอบอีกทีว่าสารดังกล่าวถูกปล่อยมาจากโกดังไหน ซึ่งผู้กระทำจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 5 ปี นายสัญญา กล่าว


ที่มา  http://news.mthai.com/general-news/190203.html

วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2555

ตะลึง!แม่น้ำแยงซีเป็นสีเลือด


แม่น้ำแยงซีในจีนกลายเป็นสีแดงหลายคนเชื่อสัญญาณวันสิ้นโลกเหตุพ้องข้อความในพระคำภีร์ใบเบิ้ล
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ชาวจีนที่อาศัยอยู่แถบแม่น้ำแยงซี หรือ แม่น้ำฉางเจียง ในเขตเทศบาลนครฉงชิ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน ต้องตกตะลึง เมื่อน้ำในแม่น้ำกลายเป็นสีแดงอมส้มโดยไม่ทราบสาเหตุ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้ามาตรวจสอบสาเหตุที่ชัดเจน ขณะที่ประชาชนบางกลุ่มเริ่มหวั่นวิตก ว่านี่อาจเป็นสัญญาณของวันสิ้นโลก ตามที่บันทึกไว้ในคัมภีร์ไบเบิลก็เป็นได้
เอมิลี สเตนลีย์ ศาสตราจารย์ด้านชลธีวิทยาของมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา ระบุว่า เหตุการณ์นี้ไม่น่าเกิดจากการเปลี่ยนสีเพราะสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กจำพวกแบคทีเรียลอยขึ้นมารับออกซิเจน เนื่องจากปรากฏการณ์ที่ว่า มักเกิดในน้ำทะเลมากกว่าน้ำจืด จึงมีความเป็นไปได้ว่า เกิดเพราะฝีมือมนุษย์
เมื่อธ.ค.ปีก่อน เคยเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้มาแล้วที่แม่น้ำเจียน ในเมืองลั่วหยาง ทางเหนือของมณฑลเหอหนาน แต่ครั้งนั้น น้ำเปลี่ยนสีเนื่องจากปนเปื้อนสารย้อมสีจำนวนมาก ที่ถูกทิ้งจากโรงงานผลิตสารย้อมสี 2 แห่งในเมือง ซึ่งต่อมาทางการได้สั่งปิดโรงงานทั้งสอง และสั่งให้แยกชิ้นส่วนเครื่องจักรของโรงงานทั้งหมด
เหตุการณ์ในแม่น้ำแยงซีกลายเป็นสีแดง พ้องกับข้อความในพระคัมภีร์ไบเบิล ของคริสต์ศาสนา ที่ระบุว่า เทวดาจะโยนบาปทั้งหลายลงสู่แม่น้ำ ทำให้แม่น้ำกลายเป็นสีแดงฉาน เป็นหนึ่งในสัญญาณว่าวันสิ้นโลกกำลังใกล้เข้ามา